แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตลาดนัด แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตลาดนัด แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตลาดนัด...ตลาดขวัญใจคนจน

        ผมว่าเรื่องปัจจัยสี่...เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันนะ...ซึ่งก็ประกอบไปด้วย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค  ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีปัจจัยอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากความจำเป็น  อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ที่มีไว้เพื่อยกระดับฐานะของตนเอง ผมว่ามันก็เป็นอีกปัจจัย ที่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่มีเงิน ก็มองว่าสิ่งเหล่านี้กลายเป็นสิ่งจำเป็นซะแล้ว...
        การที่จะไปเดินซื้อข้าวของเครื่องใช้มากมาย ในห้างสรรพสินค้า ทั้งของใช้จำเป็น ของใช้ส่วนตัว เครื่องครัว เครื่องสำอาง อาหาร แม้แต่ยา เดี๋ยวนี้ก็มีขายกันในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ที่จะโฆษณาว่ามีทุกสิ่งครบครัน ผมว่ามันเหมาะสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางไปจนถึงผู้มีรายได้มากนะ...
         แล้วถ้าผู้มีรายได้น้อยหล่ะ... กับการที่จะไปเดินซื้อที่ห้างสรรพสินค้าคงจะไม่สะดวก เพราะเวลาเห็นสินค้ามากมายก็เกิดความโลภอยากซื้อโน้นซื้อนี่ เงินก็มีอยู่จำกัดจำเขี่ยแต่ก็อยากได้สินค่าที่มีมูลค่ามากกว่า ก็หนีไม่พ้นการกดบัตรเครดิตอีกนั้นแหละ...บางคนถึงกับหยิบยืมก็มีเหมือนกัน ความอยากได้ อยากดี อยากมีเท่าคนอื่น บางทีผมว่า...มันก็เป็นความอิจฉาลึกๆ ของคนที่มีรายได้น้อยนะ...



         แต่ไม่ใช่ปัญหาครับสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ก็หาสินค้าที่มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน เกรดและระดับของสินค้าที่แตกต่างออกไป แต่ก็ถูกสตางค์ในกระเป๋า ก็เป็นเรื่องที่น่านิยมนะ...
ผู้ที่มีรายน้อยจึงนิยมหาสถานที่ที่จะทำให้เงินในกระเป๋าลดลงไปได้มาก ความสนใจจึงไปอยู่ ณ สถานที่ที่มีทั้งของกิน ของใช้ เครื่องครัว ขนมอาหาร และยารักษาโรค แม้กระทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวก หน้าตาเหมือนกับของในห้างสรรพสินค้าอย่างไรอย่างนั้นแหล่ะครับ...แต่ราคาถูกกว่เยอะ ผมว่าของถูกของดียังมีในโลกครับ..."ตลาดนัด"...จึงเป็นทางเลือกของผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งผมว่าบางครั้งผู้ที่มีรายได้มากยังต้องมาใช้บริการเลยครับ...เพราะของบางอย่างในห้างสรรพสินค้าไม่มีครับ...บางทีกับติดใจต้องกับมาซื้อแล้วซื้ออีก...เป็นไงหล่ะเพ่...ไม่ใช่ของแพงจะถูกใจเสมอไปหล่ะสิ...

       ของซื้อของขาย ไม่ซื้อไม่หาไม่ว่ากัน มาชมมาดูครั้งนี้ไม่มาครั้งหน้ามาใหม่ก็ยังได้ มามั่งไม่มามั่ง มาเป็นประจำหรือไม่มาเลยก็ตาม ตลาดนัดก็ยังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป  ใครที่ไม่เคยมาก็อาจจะมีสักวันที่ต้องมา ตลาดโน้นตลาดนี้มีให้เลือกมากมายหลายสถานที่ ใครอยากเดินเท่ๆ เก๋ๆ แบบดูดีที่ได้ของถูก ของดี แม้จะไม่ฟรีก็ตาม ก็เน้นความแปลกเข้าว่า เดี๋ยวนี้วัยรุ่นนิยมของแปลก ที่ไม่เหมือนใคร ใครตกแต่งได้ดีสวยงามมากกว่าก็กลายเป็นเรื่องที่มานิยมกันภายหลัง แล้วแต่ความชอบของใครของมัน ซึ่งผมว่ามันก็เป็นตัวของตัวเองอย่างมีสไตล์นะ...

       แต่งดีก็มีคนเลียนแบบ แต่งไม่ดีก็ไว้แก้ตัวที่หลังก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม อุปกรณ์แต่งตัวมีให้ช็อกันอย่างมากมาย ของใช้ส่วนตัว ของตกแต่งบ้าน อุปกรณก่อสร้าง ของเก่ามือสอง สารพัดอย่าง ผมว่าห้างสรรพสินค้า ต้องอาย เพราะยังแบ่งแยกกันไปขายเปิดเป็นบูธ เปิดช็อปกันให้วุ่นวาย ก็ของที่เขาขายกันในตลาดนัดนี่แหล่ะ...

ผมว่าไปตลาดนัดทีเดียวมีทุกอย่าง บางทีก็แยกเป็นโซน เพื่อความเหมาะสมบ้าง ไม่ให้ดูสกปรกเลอะเทอะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ตลาดนัดติดพัดลม ติดแอร์ก็มี ไม่ต้องไปเดินให้เมื่อยให้เหนื่อย ร้านไหนใครนิยมก็มาแล้วมาอีก ช็อปปิ้งกันให้หนำใจ ใครใกล้ที่ไหนก็ไปที่นั้นได้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวังครับ ของดีของเด็ด สินค้าสำหรับทุกเพศทุกวัย ของแปลก ของสวยงาม ต้องเดินเที่ยวซื้อได้ที่ "ตลาดนัด" ตลาดขวัญใจคนจน 

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มาเป็นพ่อค้าตลาดนัด...ได้ไง?

        "งานคือเงิน...เงินคือ...งานบันดาลสุข..." ผมว่าบทกลอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่นะ...ในเมื่อคนเรายังมีกิเลสอยู่ เงินสามารถที่จะบันดาลให้ได้มาซึ่งหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากซะด้วย...แต่เราจะทำอย่างไร? ถึงจะได้เงินมาให้มาก และเพียงพอต่อความต้องการ สนองความอยากมีอยากได้ของเราเองและครอบครัว...
         ผมก็เป็นคนหนึ่งหล่ะครับ...ที่อยากจะมีงานทำดีๆ มีเงินเดือนเยอะๆ เพื่อที่จะได้มีเงินเพียงพอต่อความต้องการ หรือเพียงพอต่อความทะยานอยากของตัวเราเอง...(ต้องหาเงินเองครับไม่มีมรดก)ผมจึงผ่านงานมาเยอะครับกว่าจะได้มาเป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัดในปัจุบัน...แต่ละอาชีพผมว่ามันก็ดีหมดแหล่ะครับมันอยู่ที่ตัวเราว่าเราพอใจในอาชีพนี้หรือยัง...ถ้าเราพอใจหรือรักในอาชีพที่ทำก็ทำได้ยาวครับ...ตอนผมเรียนมัธยมอยู่ที่พัทยา ผมก็หาเงินเรียนโดยการไปถ่ายรูปกรุ๊ปทัวร์จีนไต้หวัน สิงคโปหรือฮ่องกง... ครับ(ทำกับลุง) ก็รายได้ดีครับ...มีเงินใช้จ่ายอย่างฟุ้มเฟือย อาชีพนี้ผมว่าน่าจะไปได้ดีนะ...แต่ปัญหามันก็มีครับพอรายได้ดีหน่อย พวกไกด์หรือคนเรือก็แย่งทำซะเอง...จากได้กรุ๊ปทัวร์เยอะๆก็ลดน้อยลง...จนไม่มีเหลือแหละครับ ก็ต้องหาอย่างอื่นทำ...แล้วจะหาอะไรทำหล่ะครับ มหาวิทยาลัยก็เรียนไม่จบมีวุฒิแค่ ม.6 เอง อยู่พัทยาแรกๆก็สมัครทำงานโรงแรม หน่ะสิครับ โรงแรมตั้งเยอะแยะ...วุฒิเท่าเรานี้ทำได้สบาย...
         สมัครงานโรงแรม...แรกเลยสมัครเป็นเด็กเสริฟ...ครับ ภาษาโรงแรมเรียกเวสเตอร์ ก็ไม่ทันได้เสริฟหรอกครับลาออกก่อน(โรงแรมเพิ่งสร้างรุ่นบุกเบิก)...ก็ไปหาสมัครโรงแรมอื่นที่ดีกว่า ดูหรูกว่า เงินดีกว่า...แต่สมัครครั้งหลังๆผมจะสมัครตำแหน่งที่เขารับสายอาชีพโดยเฉพาะครับคือพวกเสมียนฝ่ายบุคคล เสมียนจัดซื้อ หรือสโตร์คริปเปอร์ ผมกล้าสมัครครับเพราะถึงจบสายสามัญแต่ผมพิมพ์ดีดเป็นครับ...ผมได้ทำและผ่านงานมาหลายโรงแรมมาก ได้ใบผ่านงานมาหลายใบครับ...เอ่อ...ผมลืมเล่าครับงานโรงแรมถ้าตำแหน่งดีๆมีทริป เยอะๆ ก็ต้องใช้เส้นสายเหมือนกันนะครับ...แต่ผมไม่เคยใช้เส้นเลยครับ...
          ทำงานโรงแรมได้หลายปีเหมือนกันครับ...แต่งตัวหล่อทุกวัน ฝูกไทด์ ใส่เชิ้ต ดูเท่ห์นะ...แต่เงินเดือนน้อย...แล้วเราก็แต่งงานมีครอบครัวแล้วด้วยรายจ่ายก็เพิ่ม ...เห็นเพื่อนๆที่เรียนด้วยกันไปทำงานโรงงานแถวแหลมฉบังเงินเดือนเยอะ มีรถยนต์ขับกันแล้ว เอ่อ...เงินคงดีกว่าโรงแรมเยอะ เลยไปหาสมัครงานแถวแหลมฉบังที่เพื่อนทำอยู่เป็นโรงงานผลิตยางรถยนต์ยี่ห้อดัง เงินเดือนดีมากครับ ค่า O.T. ก็ได้ มีค่ารถให้ สวัสดิการเยี่ยม แต่ทำได้เดือนเดียวครับ (เพราะผมไม่ชอบทำงานเป็นกะ...) ก็เลยต้องเปลี่ยนงานก็วนเวียนอยู่ในงาน โรงงานเหมือนเดิมแหล่ะครับ ตอนหลังผมได้เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อเลยนะครับ ทำงานกับญี่ปุ่นโดยตรงเป็นโรงงานผลิตท่อส่งแก๊สที่อ่าวอุดมเงินเดือนดี O.T. เยี่ยม แต่ทำกับญี่ปุ่นนี้ต้องทนหน่อยนะครับ ทำอะไรไม่ถูกใจมันด่าไม่ไว้หน้าเลยหล่ะ...มีครั้งนึงผู้จัดการโรงงานเป็นญี่ปุ่น มันด่าผมและตบโต๊ะใส่ผมต่อหน้าคนอื่น ผมเลยด่ามันและตบโต๊ะใส่มันแล้วเดินออกจากโรงงานกับบ้านเลย...ต้องหางานใหม่อีกแล้วสิเรา... (อย่าเอาอย่างนะครับไม่ดี)
            พอสมัครงานใหม่ ผมได้ที่โรงงานผลิตรถยนต์ชื่อดังที่แหลมฉบังครับ โอ้โห...โรงงานนี้ใครๆก็อยากจะเข้าทำครับ โบนัสประจำปีจะได้เยอะกว่าทุกโรงงานในเขตแหลมฉบัง เงินเดือนก็ดี ถ้าขยันๆก็มี O.T. ให้ทำ กะก็ไม่ต้องเข้า (ตอนระยะหลังมีเข้ากะครับ...ได้ค่ากะแต่ผมเลือกไม่เข้ากะ) ผมคิดว่าคงจะอยู่บริษัทนี้แหละจนกว่าจะเกษียณ...แต่ทำไปเรื่อยๆก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ ผมทำได้สัก 4-5 ปีเห็นจะได้ ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ เป็นภูมิแพ้ซึ่งได้รับควันพิษจากห้องผสมสีรถยนต์ครับ อีกอย่างผมเป็นคนตรงที่ชอบชนเมื่อเห็นว่าสิ่งไหนผิด ก็เลยไม่ก้าวหน้าเหมือนพวกที่คอยประจบ สอพอ เลี้ยงเหล้าหัวหน้าและไหลตามน้ำ...ก็มีความคิดที่อยากจะลาออก แต่เราจะไปทำอะไรกินหล่ะ อายุก็เริ่มมากแล้วลูกก็มีตั้ง 2 คน ยังต้องเรียนต้องกินต้องใช้  เอาหล่ะวะ...ผมเห็นแถวแหลมฉบังมีตลาดนัด ตอนพักเที่ยงเลยออกไปจองล๊อคไว้...แรกๆก็เอาพระเครื่องไปวาง ก็พอจะขายได้กำไล เช่ามาขายไป แล้วผมก็สังเกตุ ดูร้านขายเสื้อผ้าได้ยินเขาคุย วันนี้ขายได้ 2 พัน อีกร้านขายได้ 5 พัน บางร้านบอกขายไม่ได้เลยได้แค่ 1,500 เอง เฮ้ย... มันบอกว่าขายไม่ได้ แต่ยังเยอะกว่าค่าแรงขั้นต่ำเราอีก  อย่ากะนั้นเลยเรารับโบนัสแล้วลาออกเลยดีกว่า...แต่ก่อนลาออกผมก็ซื้อรถ ของบริษัทที่ผมทำอยู่ เป็นรถสี่ประตู เพื่อเอามาไว้ขนของไปขายตลาดนัด(ก่อนหน้านั้นใช้รถเก๋งนิสสันขายของไม่สะดวกครับ...)
             พอรับโบนัสเสร็จผมก็ลาออกเลยครับ...หัวหน้ายังถามเลยว่าคิดดีแล้วหรือจะออกไปทำอะไรกิน เลยบอกไปว่าผมจะไปขายของตลาดนัดครับ...ผมมีความรู้สึกว่าจะโดนยิ้มเยาะด้วยครับ(หัวหน้าไม่ถูกชะตากันครับ) แล้วหัวหน้าก็ยังพูดอีกว่า จะไหวเหรอไปเป็นพ่อค้าเร่...ร่อนตามตลาดนัด... ผมไม่ตอบครับ...แต่ออกจากบริษัทอย่างสบายใจ โล่งใจ ผมคิดว่าผมได้ออกมาใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ผมพอจะมีบ้าง แต่ไม่มีโอกาสได้ใช้เมื่ออยู่ในรูปแบบของลูกจ้าง... ผมไม่ต้องไปนั่งคอยเถียงกับใครนอกจากตัวเราเองและภรรยา...แฮะ แฮะ.. และถ้าเรามีความขยันมากเงินก็เป็นของเรา ถ้าเรามีความคิดดีๆ มันก็คิดให้เราได้...ไม่ได้คิดให้คนอื่นได้ ผมคิดว่าแรงของเราถ้าทำเยอะก็ได้เยอะเป็นของเรา เหมือนทำ O.T. ให้บริษัทแต่เราทำให้เขา...      งานบริษัทก็ดี งานทุกงานก็ดี เป็นงานที่ดี แต่มันอยู่ที่เราว่ามันดีสำหรับเราหรือยัง...เราพอใจในงานที่ทำหรือยัง...ส่วนตัวผมขอลาแล้วสำหรับงานลูกจ้าง ...เป็น "พ่อค้าตลาดนัด" ดีกว่า (แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับกิเลสที่ยังมีอยู่...ตราบใดที่ยังมีสมองคิดอย่างไม่มีขีดจำกัด...)

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตลาดนัดต้นไม้คลองถมพัทยา(ข้างเมืองจำลอง)


      ผมอยู่ที่พัทยาครับ...เมื่อก่อนผม...อยากจะหาต้นไม้แปลกๆ ต้นไม้หายาก หรือต้นสวยๆไม่ช้ำมาก ก็ต้องขับรถตะเวนหาไปเรื่อยๆ ตามร้านที่เปิดเป็นสวนข้างถนนทั่วๆไป...บางครั้งก็ขับรถเข้าถึงกรุงเทพฯ เพื่อไปหากล้วยไม้ป่า หรือเฟริ์นถึงสวนจตุจักร พวกต้นไม้ใหญ่แปลกๆ ก็ต้องไปถึงจ.ปราจีนบุรี หรือไม้ดอกก็แถวปทุมธานี  แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปไกลให้เปลืองน้ำมันแล้วหล่ะครับ...เพราะเขาจัดตลาดนัดต้นไม้ และอุปกรณ์ตกแต่งสวนในวันเสาร์- อาทิตย์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้าน และยังเป็นตลาดที่ผมขายของอยู่เป็นประจำครับ...

ตลาดนัดต้นไม้คลองถม(ข้างเมืองจำลอง)พัทยาครับ
           ก็ตลาดนัดคลองถมพัทยาเหนือ(ข้างเมืองจำลอง)นั้แหละครับ ในวันจันทร์-วันพฤหัสตอนเย็นเขาจะจัดเป็นตลาดนัดเปิดท้ายครับ ส่วนวันศุกร์ ร้านต้นไม้ก็เริ่มมาลงกันแล้วหล่ะครับ เขาจะมากางเต้น ลงของกันตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ใครอยากจะไปเดินดูตอนเย็นวันศุกร์ก็ได้นะครับ อาจจะได้ต้นไม้ที่ถูกใจก่อนใคร...แต่ส่วนมากผมจะมีเวลาเดินดูในเช้าวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์ครับ เพราะตอนเย็นผมไปขายเสื้อผ้าตลาดนัดเหมือนกัน...



ต้นไม้ที่มีว่างขายมีมากมายครับ

          พอได้ไปเดินดูต้นไม้แล้วก็เพลิดเพลินครับ...เห็นต้นโน้นก็อยากได้...ต้นนี้ก็อยากได้ หรือเห็นของตกแต่งสวนแปลกๆก็ต้องซื้อ ไปทีก็หมดหลายตังค์แหละครับ ...ลองไปเดินดูสิครับ ผมว่าที่นี่ก็มีต้นไม้ให้เลือกหลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้น ไม้ดอก พืชผักสวนครัว กล้วยไม้ พวกเฟริ์นต่างๆ หรือพวกปลาสวยงามก็มีจำหน่ายครับ ปลาคราฟ ผมก็ซื้อจากตลาดนี้แหละครับไปเลี้ยง ถ้าจะซื้อพันธิ์จากต่างประเทศ ก็สั่งพ่อค้าได้ครับ


อุปกรณืตกแต่งสวนครับ

หรือจะเดินดูและซื้ออุปกรณ์ตกแต่งสวนก็มีจำหน่ายครับ ปุ๋ย กระถางมีหมดแหละครับ...ตลาดจะเปิดขายในวันเสาร์-อาทิตย์ครับ ก็ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงเย็นนั้นแหละ...ก็ลองไปเดินดูครับสำหรับคนรักต้นไม้รับลองไม่ผิดหวังครับ
ตลาดก็หาไม่ยากครับ...ตลาดอยู่ข้าง มินิสยามหรือเมืองจำลองพัทยาครับ เยื่องๆกับ โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา...ครับ
ที่นี้ก็มี...รับแต่งสวนด้วยเหมือนกันครับ ส่วนใครที่จะนำต้นไม้หรืออุปกรณ์ตกแต่งสวนไปจำหน่ายก็ได้ครับมีพื้นที่เหลืออีกเยอะครับ...ก็ลองไปติดต่อดูครับ...ได้ที่แน่นอน แล้วผมจะไปอุดหนุนครับ...สวัสดีครับ

ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ปลาตู้และปลาสวยงามครับ