วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ภูชี้ฟ้า...ที่สุดของจุดชมทะเลหมอกเมืองไทย

ภูชี้ฟ้า
          "เธอ...ปีนี้เราไปเที่ยวภูชี้ฟ้ากันนะ...เพราะเราโทรจองที่พักไว้แล้ว เป็นรีสอร์ท ใกล้ๆกับภูชี้ฟ้านั้นแหละ...เราจองไว้วันที่ 1 มกราคม...แต่ได้ที่พักเป็นเต้นนะ"  เสียงภรรยาของผมแจงรายการท่องเที่ยวประจำปีให้ฟัง แต่การเดินทางต้องไปตั้งแต่ วันที่ 30 ธันวาคม...เดี๋ยวรถจะติดเยอะ  " งั้นเราไปเคาว์ดาวที่ดอยอินทนนท์ก่อนก็แล้วกัน เนอะ..ค่อยเดินทางไปภูชี้ฟ้าต่อ..."           
          ทริปนี้การเดินทางของผมค่อนข้างมาราธอนหน่อยครับ...หลังจากที่ตอนกลางคืนผมร่วมฉลองปีใหม่(เคาว์ดาว)บนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ แล้วผมจะต้องขับรถข้ามฟาก จากดอยอินทนนท์ เพื่อไปพัก บนภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย ต่อในคืนนี้ (วันที่ 1 มกราคม)แต่อย่างไรเสีย มาทั้งทีก็ต้องเที่ยวให้คุ้มครับถึงไหนถึงกัน...ว่าแล้วผมพร้อมครอบครัวก็...ขับรถลงจากดอยอินทนนท์ตั้งแต่เช้าเลยครับ ขับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วตัดออกทางหลวงหมายเลข 118 มุ่งสู่ อ.เวียงป่าเป้า ผ่าน อ.แม่สรวย มุ่งตรงสู่เชียงรายครับ ก่อนเข้าตัวเมืองเชียงราย ผมก็จะแยกไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 มุ่งสู่อำเภอเทิงครับ ระยะทาง 64 กิโลเมตร จากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 1021 (เทิง-เชียงคำ) เพียง 6 กิโลเมตร ครับแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155  ช่วงนี้แหละครับ..จะเป็นช่วงที่ต้องขับรถขึ้นเขาคดเคี้ยวพอสมควร ผ่านปางค่า บ้านรักถิ่นไทย บ้านรักแผ่นดิน และบ้านแผ่นดินทอง บริเวณกิโลเมตรที่ 25 เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1093 ไปทาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยาครับ ระยะทาง 11 กิโลเมตร  เมื่อถึงทางแยกไปทางซ้ายตามป้ายบอกทาง อีก 1.7 กิโลเมตร ก็ถึงที่ทำการ วนอุทยานแห่งชาติภูชีฟ้าแล้วครับ ...แต่ผมขับผ่านที่ทำการไปครับเพราะจองที่พักในรีสอร์ทล่วงหน้าแล้วครับ
โห้ย...งานนี้เหนื่อยมากครับขับรถกว่าจะถึงก็ร่วม 6 โมงเย็นเข้าไปแล้วหล่ะครับ...เลยไม่ได้ชม"ภูชี้ฟ้า"ยามเย็นเลยครับ  พอถึงก็รับประทานอาหารเลยครับ...รอเช้ามืดทางรีสอร์ทจะมาปลุกไปชมทะเลหมอกที่ "ภูชี้ฟ้า"ครับ(รถสองแถวมารับครับ)

แผนที่เส้นทางเข้าสู่ ภูชี้ฟ้า
      "ภูชี้ฟ้า"เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของดอยผาหม่นครับ...ยอดภูชี้ฟ้ามีลักษณะเป็นผาที่มีแหลมยื่นขึ้นไปบนฟ้าจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า ยอดเขามีปลายแหลมยื่นหรือชี้ขึ้นไปบนฟ้าแปลกตา หากมองอย่างตลก ขบขันผมว่าดูคล้ายตูดไก่นะ...แต่หากมองอย่างตั้งใจก็คล้ายสิงโตอ้าปากครับ
      พอผมลงจากรถสองแถวก็ต้องเดินขึ้นไปยังยอดภูชีฟ้าอีก 760 เมตรครับ ซึ่งเดินสบายๆ แต่มืดไปหน่อยครับต้องใช้ไฟฉาย... เช้ามืดวันนี้คนเยอะมากครับ...จนผมกลัวว่าปลายแหลมของภูชี้ฟ้าจะหักลงไปหน่ะสิ...เบียดเสียดกันเพื่อจะไปรอดูทะเลหมอกให้ชัด อีกอย่างกลัวจะพลัดตกเหวลงไปข้างล่างครับต้องร้องคอยเตือนลูกสาว ลูกชายตลอด...ไม่ให้ยืนใกล้หน้าผากลัวลื่นลงไป...


คนขึ้นไปชมทะเลหมอกเยอะมากครับ
         ยอด"ภูชี้ฟ้า" ตั้งอยู่บนความสูง 1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มองเห็นภูชี้    ฟ้าที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงทำมุม 45 องศา ซึ่งด้านบนมีพื้นที่ราบให้เดินเที่ยวชมประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านหน้าเป็นหน้าผาสูงมองเห็นหมู่บ้านเชียงตองในประเทศลาว มีจุดชมวิวยอดนิยมอยู่ 2 จุด คือบริเวณ ยอดภูและบริเวณลานก่อนถึงยอด  งานนี้เดินถ่ายรูปไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ครับเพราะคนเยอะมาก ...แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงครับ เวลาที่พระอาทิตย์เริ่มทอแสงรุ่งอรุณที่ขอบฟ้า ตัดกับทะเลหมอกสีขาวงดงามเบื้องล่าง มันงดงามเกินคำบรรยายครับคุ้มค่ากับการที่ขับรถมาทั้งวันจริงๆ ครับ ...ผมรอดูจนพระอาทิตย์ขึ้นโด่งจนสายแล้วแต่ทะเลหมอกด้านล่างก็ยังหลงเหลือ พอให้มองเห็นวิวป่าเขาสลับซับซ้อนเป็นคลื่นสวยงาม นับเป็นความงามอีกช่วงเวลาหนึ่งครับ...
ทะเลหมอกยามเช้าบน "ภูชี้ฟ้า"
           ทริปนี้ถึงขับรถข้ามฟากไกลหน่อยแต่ก็คุ้มค่ามากครับ กับความสวยงามของทะเลหมอก ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแห่งของเมืองไทย...หลังจากชมหมอกอย่างหนำใจแล้วเราก็กับที่พักเตรียมตัวเดินทางต่อครับ...เที่ยวทั้งทีต้องให้สุดๆ ไปเลยครับ
        นานหลายปีแล้วครับ...ที่ไม่ได้ไปเยือน "ภูชี้ฟ้า" ตอนนี้ลูกสาว ลูกชายผมโตมากแล้วครับ ไว้ผมมีโอกาส จะต้องไปอีกให้ได้ครับแต่ต้องไปแต่เนิ่นๆหน่อย ผมกลัวภูชี้ฟ้าจะหัก เพราะคนไปเยอะเหลือเกินครับ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น