วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตักบาตร...ที่อัมพวา

            ผมยืนขายของ...ที่ตลาดนัด มองเห็นผู้คนใส่เสื้อ อัมพวาเดินผ่านหน้าร้านกันเยอะมาก ผมว่าคนคงจะไปเที่ยวกันเยอะน่าดู(กระแสแรง) ภรรยาของผมเคยชวนไปเที่ยวหลายครั้งแต่ผมก็พูดเลี่ยงเรื่อยเพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบไปเที่ยวในที่มีผู้คนอยู่แออัด แย่งที่จอดรถ แย่งที่กิน แย่งกันเข้าห้องน้ำ และแย่งที่พักกันฯลฯ...และอีกอย่างไม่ชอบเที่ยวตามกระแสด้วย...แต่พอโดนชวนบ่อยๆ และดูภาพจาก อีเมลที่ภรรยาส่งให้ดู เห็นมีโปรแกรมเยอะดี และดูแล้วยังมีกลิ่นไอของความเป็นไทยและวิถีไทยอยู่ใน อัมพวา เป็นอะไรแบบย้อนยุคอนุรักษ์ของเก่า มีวัฒนธรรมการตักบาตรทางเรือ มีกิจกรรมดูหิ่งห้อย ฯลฯ เลยก็ตัดสินใจว่าวันหยุดเราจะไปเที่ยวอัมพวากัน เลยโทรจองที่พักเป็นโฮมสเตร์ไว้...


ที่พักริมคลองครับ

            พอถึงกำหนดวันไปเที่ยวผมออกจากบ้านที่พัทยา ประมาณ 7 โมงเช้าครับ ผมแวะเที่ยวไปเรื่อยๆครับ เพราะผมไม่เคยขับรถมาเที่ยวแถวนี้เลยครับ(สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม) ผมแวะเที่ยวสถานตากอากาศบางปูก่อนครับ  แล้วก็เข้าไปเที่ยวในดอนหอยหลอดไปกินข้าวครับ...เรียบร้อยแล้วเราก็เข้าที่พัก ที่อัมพวาครับ ผมถึงที่พักประมาณบ่ายโมงครับ เลยถามทางที่พักว่ามีเรือข้ามฟากไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาหรือเปล่า...โชคดีมากครับท่าจอดเรืออยู่ใกล้ๆกับที่พักไม่ห่างกันมาก...ผมและครอบครัวนั่งเรือโดยสารข้ามฟากไปยังฝั่งตลาดน้ำอัมพวาประมาณบ่ายสองโมงครับ...พอขึ้นท่าที่ร้านแฝดอินจัน ก็เดินอีกหน่อยก็ถึงตลาดน้ำอัมพวาแล้วหล่ะครับ...

นั้งเรือโดยสารข้าฟากไปตลาดน้ำอัมพวาครับ
           โอโห...ทำไมคนถึงเยอะอย่างนี้...เดินกันเบียดเสียดเยอะแยะวุ่นวาย สมแล้วครับที่"อัมพวา" เป็นสถานที่เที่ยวอันดับหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุดของจังหวัดสมุทรสงครามซึ่งเป็นจังหวัดริมน้ำ เล็กๆที่ได้รับรางวัลยกย่องให้เป็นมรดกแห่งเอเชียแปซิฟิก จากองค์กรยูเนสโก้ในด้านการอนุรักษ์วิถีชีวิต และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของชุมชนไว้ได้อย่างดี อัมพวา จึงเป็นเมืองอันสุนทรีย์น่าไปเที่ยวชม...


บรรยากาศริมฝั่งคลองอัมพวาครับ
             ผมเดินเที่ยวเป็นช่วงแดดร่มลมตกครับ...มีทางเดินเลาะได้ทั้งสองฝั่งคลอง ผมเดินชม เดินชิมอาหาร จากร้านค้าและเรือพายชาวบ้านที่มีวางขายกันอยู่มากมายหลากหลายชนิด  ไว้ว่าจะเป็นอาหารแห้ง ขนมหวาน เสื้อผ้า ของเล่น ฯลฯ โดยจะเริ่มขายกันตั่งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ  บรรยากาศแต่ละร้านก็มีทั้งแบบย้อนยุคจนถึงร้านสมัยใหม่  ตามลักษณะสินค้าที่นำมาวางขาย ช่วงเย็นๆ จะมีเสียงเพลงย้อนยุคขับกล่อมผู้เดินเที่ยวด้วยครับ ช่วยให้ตลาดน้ำอัมพวามีชีวิตชีวายิ่งขึ้น...

            หลังจากอิ่มท้อง เดินเที่ยวได้ของฝากถูกใจแล้ว เราก็นั่งเรือโดยสารกลับไปยังที่พักครับ...คืนนี้ยังมีกิจกรรมอีก คือ กิจกรรมนั่งเรือชมหิ่งห้อยตามคลองและแม่น้ำแม่กลองครับ ซึ่งผมให้เรือมารับถึงที่พักประมาณ 2 ทุ่มครับ(เหมาลำเฉพาะครอบครัวครับ) ซึ่งการออกชมหิ่งห้อยจะได้บรรยากาศอันโรแมนติกในยามเย็นของ แม่น้ำแม่กลอง ชมเรือนชาวบ้านริมคลอง และชมหิ่งห้อยตัวน้อยส่องแสงใต้ต้นลำพู แต่เวลาไปชมหิ่งห้อยอย่าส่งเสียงดังนะครับ หิ้งห้อยจะบินหนีและรบกวนชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงด้วย...พอชมเต็มอิ่มก็กลับที่พักครับ


ทานอาหารริมคลองตลาดน้ำอัมพวาครับ

             ช่วงเช้า...เป็นช่วงกิจกรรมที่สำคัญครับ คือตักบาตรทางเรือ ผมจะตื่นแต่เช้าเดินมาระเบียงที่พักเพื่อเพื่อรอตักบาตรพระและนั่งดู วิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองช่วงนี้น้ำจะขึ้นสูงครับ น้ำไหลสะอาด ไม่สกปรกจะเห็นชาวบ้านนุ่งผ้าถุงลงมาอาบน้ำในคลอง เห็นลุงคนหนึ่งขับเรือมาตกกุ้งแม่น้ำหน้าที่พัก ดูก็ได้บรรยากาศชาวบ้านดีครับ นั่งดูไปด้วยและกินปาท่องโก๋กาแฟร้อนที่ทางรีสอร์ตจัดให้ครับ...ไม่นาน... พระก็พายเรือมารับบิฑบาตรครับ ทริปนี้ได้ทั้งความสุข ได้ทั้งบรรยากาศริมคลองที่หาสัมผัสไม่ได้อีกแล้วแถวบ้านเรา...ผมนึกว่าอัมพวาจะวุ่นวาย คนไปเพราะเห่อตามกระแส...แต่ไม่ใช่แล้วครับ "อัมพวา" เป็นที่ ที่น่าไปสัมผัสจริงๆครับ ...แล้วพบกันใหม่ครับ "อัมพวา" 




ตักบาตรพระตอนเช้า โดยพระจะพายเรือมาบิฑบาตรครับ

จะเห็นวิถีชาวบ้านอาบน้ำริมคลองครับ


ลุงคนนี้มาตกกุ้งอยู่ด้านหน้าที่พักตอนเช้าครับ




บรรยากาศยามเช้าหน้าระเบียงที่พักครับ



รับประทานกาแฟปาท่องโก๋ครับ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น